การปลูกมะนาว

การปลูกมะนาว

หลายคนปลูกมะนาวเพราะเห็นคนอื่นปลูกมะนาวขายแล้วรวย ยิ่งทำมะนาวนอกฤดู บังคับให้ออกลูก เพื่อขายมะนาวในหน้าแล้ง ปลูกมะนาวให้ทันขายในหน้าแล้งแล้วได้ราคาดี ก็เลยแห่กันปลูกมะนาว สุดท้ายก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปในที่สุด เพราะปลูกมะนาวไปได้ซักระยะแล้วมะนาวตาย มะนาวไม่โตบ้าง หรือปลูกมะนาวแล้วไม่ติดลูกบ้าง แถมยังเริ่มต้นลงทุนไปกับมะนาวค่อนข้างเยอะ โดยที่ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน บางทีต้นตอของปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นปลูกมะนาว

เราลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนการปลูกมะนาว

1) มะนาวชอบดินร่วน หรือ ดินร่วนปนทราย เช่นเดียวกันพืชเกือบทุกชนิด การปรับปรุงดินและการเตรียมดินปลูกให้ดีก่อนการปลูกมะนาวถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ

ไม่ควรใส่วัตถุดิบ พวกเศษใบไม้ ใบหญ้า ฟาง ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าและขี้วัว ลงในหลุมปลูกมะนาว โดยที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการหมักแล้ว (ปุ๋ยหมัก) เพราะถ้ายังไม่ได้ผ่านกระบวนการการหมักที่สมบูรณ์ หากนำพันธุ์มะนาวไปปลูกเลย เมื่อรดน้ำจะเกิดความร้อนสูง อาจทำให้มะนาวต้นเหลืองและตายได้

ในการปลูกมะนาวถ้าใช้ดินผสมแกลบดิบและขี้เถ้า โดยเฉพาะแกลบดิบ ถ้าผสมมากเกินมีผลทำให้ข้างในดินอาจไม่เปียกเมื่อรดน้ำ หรือถ้าเปียกก็จะแห้งยาก ทำให้ดินแฉะเกินไป ส่วนขี้เถ้ามีฤทธิ์เป็นด่าง ใส่มากความเป็นด่างยิ่งสูง ก็จะทำให้รากมะนาวดูดธาตุอาหารได้ไม่ค่อยดี ต้นก็จะไม่ค่อยเจริญเติบโต และอ่อนแอ

เพราะถ้าดินดีจุลินทรีย์และไส้เดือนก็จะเกิดในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธาตุอาหารที่ใช้ในการเจริญเติบโตของมะนาว

2) มะนาวเป็นพืชที่ชอบแดด จะออกดอกออกผลได้จะต้องได้รับปริมาณแสงแดดที่มากพอ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงดังนั้นถ้าคิดจะปลูกมะนาวเพื่อขายลูกมะนาว พื้นที่โล่งแจ้งจะดีกว่าปลูกมะนาวในที่มีแสงรำไร แต่ถ้าคิดจะตอนกิ่งมะนาวขาย ปลูกในที่มีแสงรำไรก็พอได้

3) มะนาวเป็นพืชรากตื้น หากินใต้ผิวหน้าดิน ดังนั้นอย่าปลูกมะนาวลึกจนเกินไป หรือปลูกมะนาวไปแล้วเอาดินไปเติมบริเวณโคนต้นภายหลัง ทำให้รากได้รับอากาศได้ไม่สะดวก แนะนำขุดหลุมให้กว้าง 1 เมตร ขุดลึกลงไป 1 หน้าจอบ กองดินไว้ปากหลุม เอาปุ๋ยหมักใส่ลงไปในหลุม แล้วขุดลงไปอีก 1 หน้าจอบ  เป็นการคลุกเคล้าดินกับปุ๋ยหมักในหลุมปลูกไปในตัว

เตรียมหลุมปลูกมะนาวเสร็จแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์มะนาววางลงในหลุมปลูก และเอาปุ๋ยหมักคลุกผสมกับดินที่กองไว้ปากหลุม แล้วใส่คืนกลับลงไปในหลุมเป็นรูปกระทะคว่ำ อาจผสมปูนขาวลงไปเล็กน้อยก็ได้เพื่อช่วยปรับสภาพดิน จากนั้นใช้ฟางคลุมหน้าดิน เสร็จแล้วรดน้ำ เพื่อให้ดินเซ็ตตัว ฟางคลุมหน้าดินนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการยุบตัวของดินและกิ่งพันธุ์มะนาวหลังการปลูก อีกทั้งเป็นการรักษาความชุ่มชื้นในดิน และป้องการทำลายการชะล้างหน้าดินได้

4) มะนาวเป็นพืชที่ชอบชื้น แต่ไม่ชอบแฉะ เนื่องจากมะนาวจัดเป็นพืชที่มีระบบรากอ่อนแอ อย่าให้น้ำมากเกินไป หลังจากให้น้ำเสร็จแล้ว ให้สังเกตุดูที่พื้นดินบริเวณรอบโคนต้นมะนาว แค่ชื้นก็พอ อย่าให้แฉะจนน้ำขังระบายไม่ทัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้มะนาวเป็นโรครากเน่าโคนเน่าได้ง่าย

ถ้าดินเป็นดินเหนียวอาจให้น้ำวันเว้น 2 วันก็ได้ แต่ถ้าเป็นดินทรายอาจจำเป็นต้องให้น้ำทุกวัน ดินร่วนปลูกใหม่ให้ทุกวัน ผ่านไปซัก 15 วัน อาจจะให้วันเว้นวัน หรือถ้าเดือนนึงแล้วอาจให้วันเว้น 2 วันก็ได้

ระบบน้ำหยดเหมาะกับดินทรายและพืชที่เป็นหัว หรือเหง้า ซึ่งมีรากไม่แผ่เหมือนอย่างมะนาว ดังนั้นการให้น้ำรอบๆ ต้นมะนาวด้วยระบบมินิสปริงเกอร์จะค่อนข้างดีกว่า

ดังนั้นถ้าเราใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ก่อนการปลูกมะนาวตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ก็จะทำให้มะนาวของเราเจริญเติบโตได้ดีและอยู่กับเราไปได้นานหลายปี มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ว่า ปลูกพันธุ์มะนาวอะไรที่ดีที่สุด และ ปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์กับปลูกมะนาวลงดินแตกต่างกันอย่างไร ติดตามอ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้ในฉบับหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น